2021 Ferrari 812 GTS

Ferrari 812 GTS เปิดตัวในปี 2021 ด้วยสโลแกน “A Legend Is Reborn” หรือ “ตำนานได้ถือกำเนิดใหม่” จากการกลับมาสู่สายการผลิตรถเปิดประทุน เครื่องยนต์ V12 วางหน้าอีกครั้งของ Ferrari นับตั้งแต่ Daytona Spider เมื่อครึ่งศตวรรษก่อน

ชื่อรุ่น 812 สื่อความหมายโดยเลข "8" หมายถึงพละกำลังเครื่องยนต์ 800 CV (789 แรงม้า) ส่วน "12" หมายถึงเครื่องยนต์ 12 สูบ และ GTS ย่อมาจาก Gran Turismo Spider หรือรุ่นเปิดหลังคา

หัวใจของ 812 GTS คือเครื่องยนต์ V12 รหัส F140 GA ขนาด 6.5 ลิตร ไร้ระบบอัดอากาศ พัฒนาต่อมาจากแบบที่ใช้ในรถ Ferrari Enzo ให้พละกำลังสูงสุด 789 แรงม้าที่ความเร็วรอบ 8,500 รอบต่อนาที ซึ่งถือว่าเป็นเครื่องยนต์ที่ไร้ระบบอัดอากาศที่ทรงพลังที่สุดในโลกในตอนนั้น ระบบเกียร์เป็นแบบ Dual-Clutch 7 Speed ส่งกำลังไปยังล้อคู่หลัง

812 GTS สามารถทำอัตราเร่ง 0–100 กม./ชม. ได้ภายในเวลาไม่ถึง 3 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้กว่า 340 กม./ชม. ทำงานควบคู่กับระบบควบคุมแบบไดนามิกขั้นสูงของ Ferrari ไม่ว่าจะเป็นระบบเลี้ยวล้อหลัง (Rear-Wheel Steering) แดมเปอร์ปรับได้อัตโนมัติตามสภาพถนน (Magnetic Adaptive Dampers) และดิฟเฟอเรนเชียลไฟฟ้าร่วมกับระบบ Side Slip Control

812 คันนี้มาในสี Rosso Corsa DS 322 คู่กับภายในหนังแท้ Beige Tradizione เสริมด้วยออพชันเพิ่มเติมที่น่าสนใจ อาทิ พวงมาลัยคาร์บอนไฟเบอร์พร้อม Shift Lights คอนโซลกลางคาร์บอนไฟเบอร์ โลโก้ Scuderia Ferrari บริเวณซุ้มล้อหน้า และระบบยกหน้ารถ Front Lift System เพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้งานจริง นอกจากนั้นยังเสริมความโดดเด่นด้วยชุดล้อฟอร์จ HRE 520 Series ขนาด 20 นิ้วด้านหน้า และ 21 นิ้วด้านหลัง (ชุดล้อเดิมยังคงเก็บไว้อย่างดี)​ ตัวรถทั้งคันได้รับการติดตั้งฟิล์มกันรอยแบบเต็มคัน พร้อมลวดลายสไตล์ Scuderia เพิ่มเติม

รถนำเข้าโดย Cavallino Motors ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย ปัจจุบันรถยังคงครอบครองโดยเจ้าของท่านแรกและท่านเดียว เลขระยะทางสะสมเพียง 14,090 กิโลเมตร ซ่อมบำรุงโดยศูนย์บริการ และยังอยู่ใน Warranty พร้อม Free service ครอบคลุมถึงปลายปี 2027 หรือ 20,000 กม

The 812 GTS is the open-top expression of Maranello’s front-engined V12 lineage. It marks the return to production of a front-mounted, naturally aspirated V12 convertible, the first since the legendary Daytona Spider of the 1970s. This example, presented in the iconic Rosso Corsa DS 322 over Beige Tradizione leather, is the very first 812 GTS officially imported to Thailand by Cavallino Motors out of just eight units allocated nationwide.

The name "812" tells a precise story of performance. The “8” stands for 800 CV (789 horsepower), while the “12” refers to the car’s 12-cylinder engine. “GTS” stands for Gran Turismo Spider, Ferrari’s tribute to open-air grand touring. At launch, the 812 GTS held the title of the world’s most powerful naturally aspirated production car.

Under the bonnet is the F140 GA V12 which evolved from the one powering the legendary Enzo. It delivers its peak output at 8,500 rpm. Paired with a 7-speed dual-clutch gearbox and rear-wheel drive, the 812 GTS offers a raw, symphonic Ferrari driving experience with no turbocharging and no hybrid assistance.

The 812’s performance of sub-3.0 seconds to 100 km/h and a 340 km/h top speed is backed by some of Ferrari’s most advanced dynamic features, including rear-wheel steering, magnetic adaptive dampers, and E-Diff with Side Slip Control. In this particular example, optional extras are also present, including a carbon fiber steering wheel with shift lights, carbon fiber center console, Scuderia Ferrari fender shields, and a front lift system for added versatility. It also benefits from a set of forged HRE 520 Series wheels (original wheels are well kept and will be included), 20 inches in front and 21 in the rear. The entire body is wrapped in high-grade paint protection film with Scuderia-style striping applied on top of the PPF.

Still in the care of its first and only owner, the car has traveled just 14,090 kilometers. It remains under official Ferrari warranty with free scheduled service coverage valid until the end of 2027 or 20,000 kilometers, whichever comes first.